
ในทุกๆวันนี้คนเรากับนาฬิกากลายเป็นสิ่งคู่กันไปแล้วโดยที่มาการพัฒนาไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุดนิ่งซึ่งความสามารถของนาฬิกาที่พัฒนามานั้นก็มีหลักการจากความต้องการผู้บริโภคนั่นเองซึ่งมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาตามเทคโนโลยีในช่วงเวลานั้นๆซึ่งช่วงแรกอาจจะเพิ่มทีละนิดๆจะค่อยๆเพิ่มฟังชันโดนเริ่มจากการค่อยๆเพิ่มทีละนิดๆจากการเพิ่มวันที่เพื่อใช้บอกวันเวลา ต่อมาอีกนิดก็มีระบบดิจิตอลจะมีระบบนาฬิกาจับเวลาซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายในเวลาที่มีจำกัด ระบบต่อมาที่มีตามมาก็คือระบบนาฬิกาแจ้งเตือนซึ่งส่วนให้จะใช้ฟังชั่นนี้ในการปลุกตอนตื่นนอนเพราะนาฬิกาส่วนใหญ่จะเป็นการแจ้งเตือนโดยใช้เสียงที่มีเสียงที่ค่อนข้างดังมากเลยทีเดียวแต่ไม่หยุดเพียงเท่านั้นโดยสามารถพัฒนามาถึงการใช้งานในโหมดของการรับสายโทรศัพท์ โดยที่มีการโดยการสัมผัสหน้าจอเพียงเบาด้วยระบบการทำงานแบบสัมผัสหน้าจอ และการเชื่อมต่อไร้สายโดยการที่ใช้ระบบสื่อสารไร้สายที่เรียกว่าบลูทูธและในปัจจุบันนี้โทรศัพท์ยังสามารใช้ถ่ายรูปหรือแม้กระทั้งรับส่งงานทางอีเมล์ได้เลยทีเดียว ซึ่งก่อนทีจะทันสมัยได้ขนาดนี้จะมีใครใครรู้บ้างไหมว่านาฬิกาในสมัยก่อนมีการริเริ่มมาจากการนำไม้มาปักทอยูบนดินแล้วสังเกตจากเงาแทนเข็มเวลาหรือเรียกอีกอย่างว่านาฬิกาแดดจะสามาถบอกเวลาได้เพราะช่วงที่มีแสงเท่านั้นช่วง ซึ่งเกิดจากการสังเกตเรื่องเงาว่ามันจะมาในทิศทางเดิมในทุกวันอย่างสม่ำเสมอถือเป็นจุดเริ่มต้นของนาฬิกาเลยทีเดียว โดยที่สมัยก่อนจะยังไม่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องนาฬิกาสมัยนั้นส่วนใหญ่จึงทำมาจากธรรมชาติทั้งสิ้นแม้แต่ทรายก็นำมาใช้เป็นเครื่องบอกเวลาได้เลยทีเดียว เห็นไหมครับไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปเท่าไหร่นาฬิกาก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอสำหรับมนุษย์